ประวัติ   วัดศรีตาลอย

ในอดีต   เมื่อประมาณ ปี   พ.ศ.  ๒๔๐๐-๒๔๑๐ ได้มีหมู่บ้านเล็ก ๆ  หมู่บ้านหนึ่งซึ่ง ห่างจากเส้นทางเกวียนประมาณ  ๕๐๐  เมตร  มีหมู่บ้านอยู่ประมาณ  ๑๐   หลังคาเรือน    หมู่บ้านดังกล่าวนี้    ซึ่งมีพ่อใหญ่ลอยมาอยู่ทำไร่  อยู่มาประมาณ   ๑๐ กว่าปี  ต่อมาเมื่อมีหลังคาเรือนในหมู่บ้านมากขึ้น   พ่อใหญ่ลอยได้พาชาวบ้านไปทำบุญที่บ้านนาลังกา(คือบ้านหนองคันปัจจุบัน)ได้รับความลำบากในการเดินทางไปทำบุญในฤดูฝน    จึงมาประชุมกันจัดตั้งวัดขึ้นใกล้กับเส้นทางเกวียน     ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างบ้านพ่อใหญ่ลอย  กับบ้านนาลังกา   ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางหัวนาพ่อใหญ่ลอย   เส้นทางที่ว่าดั่งกล่าวนี้  เป็นเส้นทางเก่าเดินเท้าเข้าไปอำเภอน้ำอ้อม   (ปัจจุบันอำเภอกันทรลักษ์)พ่อใหญ่ลอยได้นิมนต์พระที่จังหวัดขุขันธ์จึงได้หลวงปู่ศรีไม่ทราบฉายา     เมื่อหลวงปู่ศรีมาแล้ว  ท่านได้ตั้งชื่อวัดว่า     วัดศรีตาราม  บ้านตาลอย

เมื่อปี  พ.ศ.  ๒๔๑๐  หลวงปู่ศรีได้พาชาวบ้านสร้างเสนาสนะขึ้นมีกุฏิหนึ่งหลังซึ่งควบคู่กับสิ่งปลูกสร้างเก่ามีสิมและเจดีย์หลังหนึ่ง ด้าน ตะวันออก     หลวงปู่ศรีอยู่ที่วัดศรีตารามบ้านตาลอย   มาจนถึง  พ.ศ.  ๒๔๓๐  หลวงปู่ศรีได้มรณภาพลง    ต่อมาปี  พ.ศ. ๒๔๓๐  นั้นเองก็มี  หลวงปู่โท   มาเป็นประธานสงฆ์   ต่อจากหลวงปู่ศรี   หลวงปู่โทได้พาญาติโยมย้ายวัดไปอยู่ติดกับกลางบ้านตาลอย   จึงได้รื้อถอนเสนาสนะไปตั้งอยู่กับบ้านตาลอย   หลวงปู่โท อยู่ มาจนถึง  พ.ศ.  ๒๔๓๗  หลวงปู่จึงได้ลาสิกขาไป  ต่อมาเมื่อ  พ.ศ. ๒๔๓๙  ก็มีหลวงปู่เงียงมาอยู่ต่อ  เป็นประธานสงฆ์ในวัดศรีตารามจนถึง  พ.ศ.๒๔๔๒   หลวงปู่เงี่ยงจึงได้ย้ายไปอยู่ที่ อื่น     ต่อจากนั้นมา   ก็ได้มีหลวงปู่หอม มาอยู่เป็นประธานสงฆ์   พ.ศ.  ๒๔๔๕  จนถึง  พ.ศ.  ๒๔๕๒  หลวงปู่หอมก็ได้ลาสิกขาไป   หลังจากนั้นมาก็มี หลวงปู่ล้อม ไม่ทราบฉายา เดินทางมาจาก จังหวัด ขุขันธ์  (ปัจจุบันอำเภอขุขันธ์) พ.ศ.๒๔๕๒  จนถึง  พ.ศ. ๒๔๖๓  ก็ได้ลาสิกขาไปต่อจากนั้นก็มีหลวงปู่ โย มาอยู่เป็นประธาน-สงฆ์  จนถึง  พ.ศ. ๒๔๗๕  ก็ได้จากไปจำพรรษาที่อื่น  ต่อมาก็มีพระอาจารย์ลาเป็นประธานสงฆ์  พ.ศ. ๒๔๘๔  ถึง  พ.ศ. ๒๔๘๙  พระอาจารย์ลาก็ออกไปจำพรรษาที่อื่นอีก  ต่อมาพระอาจารย์ทอง   เดินทางมาจากอำเภอวารินชำราบ  จังหวัดอุบลราชธานี  มาเป็นประธานสงฆ์  พ.ศ. ๒๔๘๙  ถึง พ.ศ. ๒๔๙๕  พระอาจารย์ทอง ก็ได้ลาสิกขาไป   หลังจากนั้นก็มี หลวงปู่อ่อนสา เดินทางมาจากบ้านหนองสามขา  อำเภอกันทรารมย์  จังหวัดศรีสะ-เกษ  เป็นประธานสงฆ์   พ.ศ.๒๔๙๕ ถึง  ๒๔๙๙  ก็ย้ายไปมรณภาพที่บ้านเกิด

ต่อมาก็มีพระอาจารย์ทัน  เดินทางมาจากบ้านโคก  ตำบล ตระกาศ  อำเภอกันทรลักษ์  มาเป็นประธานสงฆ์   พ.ศ. ๒๔๙๙  ถึง  พ.ศ. ๒๕๐๓  ก็มีพระอาจารย์ เหรียญมาเป็นประธานสงฆ์   พ.ศ.๒๕๐๓ ถึง  พ.ศ. ๒๕๐๗  พระอาจารย์ ก็ได้ลาสิกขาไป  อีกต่อมามีพระอาจารย์ เปรี่ยนอยู่เป็นประธานสงฆ์จนถึง  พ.ศ.๒๕๐๗ –๒๕๐๘ พระอาจารย์ เปรี่ยนก็ได้ลาสิกขาไป  พ.ศ.๒๕๐๘ นั้นก็มี พระอาจารย์ศรีวิชัย   เดินทางมาจาก อำเภออุทุมพร-พิสัย  ต่อจากอาจารย์  เปรียน  พระอาจารย์ ศรีวิชัยเห็นว่า  วัดศรีตารามในบ้านตาลอย  เป็นสถานที่ แคบจึงได้ชักชวนชาวบ้านย้ายวัดศรีตารามมาตั้งในที่เดิม (คือวัดศรีตาลอยปัจจุบัน) มีเนื้อที่  ๑๙ ไร่  ๓   งาน  ๕๔  ตารางวา     วัดศรีตารามที่ ท่านพระอาจารย์ศรีวิชัย พาย้ายมาจึงตั้งชื่อใหม่เป็น  วัดศรีตาลอย  ในปีเดียวกัน  ท่านได้พาญาติโยมชาวบ้านสร้างเสนาสนะเป็นกุฏิไม้  ๒  ชั้น  มีเสา   ๔๐  ต้นท่านอยู่ถึง  พ.ศ.๒๕๑๑  ก็ย้ายไปอยู่ที่วัดจานคุณาราม  ต่อมาก็มีพระอาจารย์ บุญธรรม    เดินทางมาจาก บ้านเขวามาอยู่เป็นประธานสงฆ์   ถึง  พ.ศ. ๒๕๑๑- ๒๕๑๒    ก็ย้ายไปจำพรรษาที่อื่น  พ.ศ. ๒๕๑๒  ก็มีพระอาจารย์สิงค์   มาอยู่แทนจนถึง พ.ศ. ๒๕๑๔  ก็มีพระอาจารย์สอน อยู่ต่อจากพระอาจารย์ สิงค์  พ.ศ. ๒๕๑๖  ก็มีหลวงปู่พาเดินทางมาจาก        วัดหนองคัน  มาอยู่ต่อจากพระอาจารย์  สอน  จนถึง พ.ศ.๒๕๑๘  ก็มีพระอาจารย์  กัน  ขันติโก  มาอยู่ต่อ ท่านก็พาญาติโยมชาวบ้านสร้างศาลาการเปรียญหนึ่งหลัง คือ หลังเดิมปัจจุบัน   แต่ยังไม่แล้วเสร็จ  พ.ศ.๒๕๒๑ ท่านก็ย้ายไปจำพรรษาที่อื่น    ปีต่อมาก็มีหลวงปู่แสนสุขมาเป็นประธานสงฆ์   ได้ดำเดินการสร้างศาลาที่ค้างอยู่ให้แล้วจนเสร็จ  พ.ศ.๒๕๒๗  หลวงปู่แสนก็ได้ลาสิกขาไป  ต่อมาก็มีพระอาจารย์หัน  มาอยู่เป็นประธานสงฆ์ จนถึง  พ.ศ.  ๒๕๓๑  ก็มีพระอาจารย์ ยะมาอยู่เป็นประธานสงฆ์ในปีนั้นก็ได้ลาสิขาไป  ต่อจากนั้นก็มีพระอาจารย์สวัสดิ์  มาอยู่เป็นประธานสงฆ์จนถึง พ.ศ. ๒๕๓๑-๒๕๓๒  ก็ย้ายไปจำพรรษาที่วัดบ้านภูมิซรอล  ต่อมาก็มีพระอาจารย์รอง อินฺทวีโร  (พวงจำปา)  มาอยู่จนถึง พ.ศ.๒๕๓๒ – พ.ศ. ๒๕๓๔ พระอาจารย์รอง  อินทวีโร (พวงจำปา)  ได้พานำผู้ใหญ่บ้านตาลอยคือ นายสือ ใจมั่น  ไปกราบเรียนขอพระที่วัดป่าบ้านหนองแวงกับหลวงพ่อสุบิน  อุตฺตโม  สาขาที่  ๑๒  ของวัดหนองป่าพง   หลวงพ่อสุบิน  อุตฺตโม          เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านหนองแวง  ท่านจึงจัดให้พระถาวร   อหิงสโก ชึ่งท่านจำพรรษาที่นั้น  พระถาวร  อหิงสโก  ได้อยู่กับหลวงพ่อสุบิน   ที่วัดป่าบ้านหนองแวง  ตำบลหนองแวง  อำเภอกันทรารมย์   จังหวัดศรีสะเกษ  ผู้ใหญ่สือ  ใจมั่น และชาวบ้านตาลอย  ทายกทายิกา  ตกลง ไปรับพระถาวร   อหิงสโก  ที่วัดป่าบ้านหนองแวง  เมื่อวันที่  ๔ กุมภาพันธ์  พ.ศ.๒๕๓๕ มาอยู่จำพรรษาเป็นประธานสงฆ์ที่วัดศรีตาลอย  ต่อมาก็ได้ดำเนินการบุรณะกุฎิสงฆ์หลังเก่าปรับปรุงเสนาสนะที่ชำรุดปลวกกินไปเป็นบางส่วนเสียหายสร้างกุฎิหลังใหม่ขึ้นแทนหลังเก่าต่อมาพาคณะชาวบ้านสร้างโรงครัวขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๓๖  โรงครัวก็แล้วเสร็จ และได้ดำเนินการปลูกต้นไม้จนเต็มบริเวนวัดให้เป็นป่าถาวรในอนาคต พ.ศ.๒๕๓๗  ได้เป็นประธานพาชาวบ้านสร้างกุฏิสงฆ์คอนกรีตกว้าง ๗  เมตร   ยาว  ๑๔ เมตร ๒ ชั้นทดแทนหลังเก่าที่รื้อไปสร้างเป็นโรงครัววัดศรีตาลอย  จนเป็นที่ประจักษ์แก่ทางคณะสงฆ์จังหวัด จึงมีประกาศ เมื่อวันที่  ๑๓  ตุลาคม  พ.ศ.๒๕๓๘  พระอาจารย์ถาวร  อหิงสโกได้รับการแต่งตั้งเป็นพระสังฆาธิการเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีตาลอย  ทำหน้าที่ดำเนินการก่อสร้างกุฏิสงฆ์ จนแล้วเสร็จเมื่อ  วันที่  ๕ ธันวาคม  พ.ศ.๒๕๔๐ ทางวัดเห็นว่ายังไม่มีอุโสถจึงดำเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่  ๑๔ มีนาคม  พ.ศ.๒๕๔๒ เป็นประธานนำพาชาวบ้านวางแผ่นศิลามงคลสร้างศาลาการเปรียญและอุโบสถหลังเดียวกันยังไม่แล้วเสร็จ     และในปีต่อมา  ก็ได้รับสัญญาบัตรพัดยศที่พระครูเมตตาธรรมสิริ  เมื่อวันที่  ๕ ธันวาคม  พ.ศ.๒๕๔๖ ต่อมาเมื่อ วันที่  ๘  กุมภาพันธ์   ๒๕๔๗   ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลจานใหญ่  ต่อมาเมื่อ  วันที่  ๑๐ กุมภาพันธ์   ๒๕๔๙  ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์   อีกต่อมาก็ได้ดำเนินการขอพระราชทานวิสุงคามสีมา   และก็ได้โปรดเกล้าพระราชทาน  เมื่อวันที่  ๓๑  กรกฎาคม  พ.ศ.๒๕๔๙                     ประกาศพระราชกิจจานุเบกษา

เอกสารเกี่ยวกับวัด 1 : (565.94 kb)

เอกสารเกี่ยวกับวัด 2 : (1.86 mb)

เอกสารเกี่ยวกับวัด 3 : (1.69 mb)

Google Map Link
กดดู