ข้อมูลทั่วไป
QR Code ดอนนางหงส์
รหัสวัด
04480507001
ชื่อวัด
ดอนนางหงส์
นิกาย
มหานิกาย
ประเภทวัด
วัดราษฎร์
วันตั้งวัด
ปี 2300
วันรับวิสุงคามสีมา
ปี 2497
ที่อยู่
บ้านดอนนางหส์
เลขที่
56
หมู่ที่
3
ซอย
-
ถนน
ชยางกูร(นครพนม-ธาตุพนม)
แขวง / ตำบล
ดอนนางหงส์
เขต / อำเภอ
ธาตุพนม
จังหวัด
นครพนม
ไปรษณีย์
48110
เนื้อที่
7 ไร่ - งาน 12 ตารางวา
Facebook
คลิกดู
คุณสมบัติวัด
จำนวนเข้าดู : 115
ปรับปรุงล่าสุด : 2 สิงหาคม พ.ศ. 2565 20:18:04
ข้อมูลเมื่อ : 25 มิถุนายน พ.ศ. 2565 07:59:00
ประวัติความเป็นมา
ประวัติวัดดอนนางหงส์
ก่อนเล่าประวัติดอนนางหงส์ ผู้เขียนใคร่ขออภัยบรรดาท่านผู้อ่านหรือแฟนๆ ที่รักและเครารพนับถือก่อนครับ เพราะว่าการค้นคว้าศึกษาหาข้อเท็จจริงเกือบจะแย่เหมือนกันนะครับ เพราะในประวัติศาสตร์สากล พงศาวดารไทยก็มิได้บันทึกไว้แน่นอนว่าความเป็นมาของดอนนางหงส์เป็นมาอย่าไรผู้เขียนได้พยายามศึกษา ค้นคว้าจากพงศาวดารและประวัติศาสตร์ภูมิศาสตร์บ้าง กับสอบถามกับผู้เฒ่าผู้แก่บ้าง ตลอดทั้งบุคคลสำคัญในท้องที่ ผู้รู้มาประกอบกัน ผู้เขียนจึงได้บันทึกเรื่องรวบรวมเป็นประวัติตำบลดอนนางหงส์ หากบกพร่อง ผิดพลาด คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงโปรดกรุณาเพิ่มเติ่มแก้ไข้ไปตามเป็นจริงจะเป็นพระคุณอย่ามาก ผู้เขียนจะไม่ สงวนลิขสิทธฺ์แต่ประการใดๆ ทั้งนี้เพื่อแสดงออกแห่งงความรู้
ตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นตำบลชายแดนตำบลหนึ่งชาวดอนนางหงส์ยึดพระธาตุพนม บรมเจดีย์ เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์้ป็นเป็นมิ่งขวัญของชาวดอนนางหงส์ คนละฟากฝั่งของเซบั้งไฟ ประเทศสปป.ลาว ปัจจุบันมีอาณาเขตติดกับตำบลนาถ่อน ทิศใต้ติดต่อกับตำบลนางงาม อำเภอเรณูนคร และตำบลโพนแพง อำเภอธาตุพนม
ประวัตฺฺดอนนางหงส์ มีเรื่องราวในพงศาวดารเหนือ พงศวดารเขมร และบันทึกคำให้การชาวกรุงเก่า สมัยนั้นอยู่ในความปกครองของเมืองศรีโครต มีเจ้านันทเสนเป็นกษัตริย์ ต่อมา"ศรีโครต"เปลียนนามใหม่ว่า " มรุกขนคร"(หลักศิลาปัจจุบัน) ต่อมาถึงพุทธศักราช ๑๘๐๐ เศษ เจ้าศรีโครต ราชโอรสเจ้าบัณฑิตย์ครองมีกษิตริย์หลายพระองค์ปกครองเมืองมรุกขนคร จนถึง พ.ศ. ๒๑๐๐ เศษ พระเจ้านครหลวงพิชิตทศราชธานีโครตบูรณ์ ได้เปลี่ยนนามใหม่ว่า ศรีโครตบูตณ์ ต่อมาจนถึงปีพุทธศักราช ๒๒๘๕ พระเจ้าพหรมราชาได้ขึ้นครองราชย์ ได้ย้ายเมืองถึงอยู่ ณ ฝั่งขวาขนานนามว่า "เมืองนคร" จนถึงพุทธศักราช ๒๓๓๕ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์โปรดเกล้าให้ตั้งเมืองนครพนม หรือพงศาวดารเมืองนครพนม หรือพงศาวดารเมืองนครพนมกล่าวไว้ว่าเมื่อพุทธศักราช ๒๓๘๓ มีท้าวสาย ท้าวเพชร ท้าวอินทร์ บุตรพระยาเดโชชัยเจ้าเมืองวัง เป็นหัวนำราษฏร ๓๐๐ กว่า คน เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของไทยสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ราษฏรทั้ง ๓๐๐ คนเศษ ต่างก็จัดที่อยู่กระจัดกระจายกันอยู่ตามสถานท้องที่แบ่งเป็นพวกใหญ่บ้างเล็กบ้าง พวกใหณ่ได้ไปตั้งภูมิลำเนาอยู่ด้วยดงหวายสายบ่อแก (บ้านแว) อีกพวกหนึ่งไปตั้งภูมิลำเนาอยู่ทิศ คือ บ้านทุ่งมน บ้านนาทาม บ้านดงขวา มีท้าวอินทร์เป็นควานบ้านทั้ง ๓ ในสมัยนี้การปกครองขึ้นอยู่กับการปกครองของเมืองเรณูนคร ปกครองกันแบบปิตุลาธิปไตย ปีพุทธศักราช ๒๓๘๑ ชาวบ้านทุ่งมน ดงขวาง นาท่ม เกิดเป็นโรคระบาดล้มตายกันมาก ราษฏรหลบภัยไข้ ได้แยกย้ายกันไปที่อยู่ใหม่ บ้านเหล่านั้นก็ไปตั้งบ้านใหม่แยกกัน ท้าวอินทร์แก่กรรมไปแล้วก็มีหลานเหลนสืบตระกูลกันเป็นลำดับมา ได้มาตั้งภูมิลำเนาอยู่ที่ดอนอีหงส์�
คำว่า ดอนอีหงส์ ใช้นามบ้านตามนิมิตสิ่งสำคัญแฝงมาใช้อ้างอิงเป็นหลักฐานสัญลักษณ์ตามตำนานเล่าและผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่า "ดอนนางหงส์" ดอนหนึ่งมีไม้เบญจพรรณหลายชนิดที่ป่าดอนนี้ แต่ก็มีต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่งใหญ่ยี่สิบอุ้ม สูงประมาณ ๑๐๐ เมตร เป็นต้นทำรัง ของสัตว์ต่าง ๆ มีรังหงส์ รังอีเห็น รังแร้ง และนกอื่น ๆ ที่มานอนบ้าง ไปบ้างอีหงส์เป็นสัตว์ที่ชาวดอนอีหงส์รักมาก นับถือว่าเป็นสัตว์วิเศษใครจะทำร้ายมิได้ ชาวบ้านมีกฏขนบธรรมเนียงโดยอ้างอิงเอากฏมณเทียงบาลเป็นที่ตั้ง ถ้าใครทำร้ายจะต้องถูกประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน และนอกจากสัตว์ดังกล่าวแล้วก็มีฝูงช้างมาพักนอนสัตว์์ต่างต่างๆ ที่อาศัยอยู่มากมายน้ำที่อาศัยให้อีหงส์ลงลอยเล่นและอาหารก็มีบึงหนึ่งๆ ขนาดกว้าง ๓๐๐ เมตร ยาว ๑๐๐๐ เมตร "ชื่อบึงสีดา" และมีบึงเหล็กอีกบึกหนึ่ง "บึงหล็ก"เวลาบินร่อนของอีหงส์คู่ บินลงเล่นบึงสีดาบ้าง และบึงเหล็กบ้างอยู่ใกล้กันระยะห่างกันประมาณสัก ๒๐๐ เมตร�
อีกประการหนึ่งดอนแห่งนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพาอารักษ์ "เป็นเจ้าพ่อดอนอีหงส์"ศักดิ์สิทธิ์มากคล้าย ๆ มีตัวตันใครทำผิดกฏธรรมเนียมและล่วงเกินแล้วทำให้ถึงตายได้ทันที่ และสามารถคุ้มครองป้องกันอันตรายได้ จะไปไหนมาไหนถ้าไปวิงวอนบรวงสรวงมีแต่ความสุข ความเจริญตลอดปลอดภัย มีอายุไขยืนนานไมามรโรคระบาดเบียดเบียน ราษฏร ผู้นับถือในถ้องถิ่นนั้นอยู่ด้วยกันโดนสันติสุข จึงให้นามว่า "บ้านดอนนอีหงส์" สืบกันมา�
ปัจจุบันนี้ชาวบ้านก็ยังเครารพนับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครอง ป้องกันปัดทวภัยอันตรายต่าง ๆ ได้� จะไปไหนมาไหนกระทำกิจกรรมต่างๆ ในหมู่บ้าน ตำบลก็ยังคงบรวงสรวง บูชา รำลึก คิกถึงพระคุณของเจ้าพ่อก่อนจะทำหรือก่อนจะไปต่างจังหวัดหรือนอกประเทศ ถ้าใครล่วงล้ำแล้วคนนั้นเขาถือว่าซวย ก็ซวยจริง ๆ นะครับ ถ้าไปค้าขายก็ขาดทุน ล่มจ่มฉิบหายได้ว่างงั้น
ต่อมาจนถึงปีพุทธศักราช ๒๕๐๐ ทางราชการปรับปรุ่งการปกครองบ้านเมืองเจริญขึ้น และขยายการปกครองออกไปถึงประชาชนให้ปกครองตนราษฏรได้เลือกคนดีมีความเชื่อถือเลือกตัวบุคคล ให้มี ตาแสง (กำนัน) ปกครองดอนอีหงส์ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๐๐ ตั้งท้าวอินทร์ (นายอินทร์ แสนสุข) เป็นตาแสง (กำนัน) ในสมัยที่อาณาเขตดอนอีหงส์ มีอาณาเขต ทิศเหนือติดต่อกับ"ตาแสง บ้านกลาง" ตำบลนาถ่อน ปัจจุบันมาขึ้นกับตาแสงดอนอีหงส์ ทิศใต้ติดต่อกับตาแสงธาตุน้อย ตำบลธาตุน้อย ตำบลแสนพันปัจจุบันมาขึ้นกับตาแสงโพนทอง ตำบลนางาม ตำบลโพนแพง ปัจจุบันขึ้นกับตาแสงดอนนางหงส์ จนปีพุทธศักราช ๒๔๑๔ ตาแสงอินได้ถึงแก่กรรม ชาวบ้านตั้งท้าวพระเทพ เป็นตาแสงแทน ถึงปีพุทธศักราช ๒๔๓๐ ตาแสงพระเทพ ลาออกราษฏรจึงตั้งท้าววรดีแทน จนถึงปีพุทธศักราช ๒๔๕๐ ทางราชการยุบอำเภอเมืองเรณูนครพนม เป็นตำบล โดยมีขุนหลวงชาญยุทธกิจ นายอำเภอเมืองเรณู ได้ย้ายตัวเมืองเรณูนครไปตั้งอยู่บ้านธาตุพนม ให้นายอำเภอว่า อำเภอธาตุพนม ได้เปลี่ยนการปกครองใหม่ เปลี่ยนว่า ตาแสงมาเป็น "คำว่าตำบล" กำนัน ให้นามว่า "ตำบลดอนอีหงส์ การบริหารหรือการบริหารหรือการปกครองปกครองได้รับความเจริญวิวัฒนาการขึ้นบ้างและเปลี่ยงความเจริญก้าวหน้าก้าวหน้า ต่อมาถึงปีพุทธศักราช ๒๔๗๔ เปลี่ยนแปลงคำว่า "อีหงส์ " ให้เป็นนามใหม่ว่า "บ้านดอนนางหงส์" หรือตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จนถึงปัจจุบัน�
แผนที่ Google Map
Google Map Link
กดดู
รายการพระ
ข่าวประชาสัมพันธ์จากวัด
เทศกาลงานบุญประเพณี
ปูชนียวัตถุสถาน
วีดีโอพระพุทธศาสนา
สาระธรรม
โครงการอบรมคุณธรรมจริธรรม ระหว่างวันที่ 30 - 1 กรกฏาคม 2565
ข้อมูลเมื่อ : 02-07-2565
เปิดดู 94 ครั้ง
สื่อมีเดีย
สำนักปฏิบัติธรรม
ทรัพย์สินของวัด
โครงการและกิจกรรมเด่น
อบรมคุณธรรมจริยธรรมในโรงเรียน
ข้อมูลเมื่อ : 29-06-2565