ประวัติที่พักสงฆ์พุทธลีลา
 
ที่พักสงฆ์พุทธลีลาก่อตั้งขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบันของบ้านเมืองที่เจริญขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ประชากรก็เกิดขึ้นมาอย่างมากมาย รถลาก็มากมายทำให้การไปมากับวัดใหญ่(วัดราษฎร์สามัคคี)ไม่สะดวก โดยเฉพาะเด็กและคนชรา
          อีกประการหนึ่ง บ้านหนองหอยท่า หมู่ที่ ๖ เป็นถิ่นกำเนิดของเจ้าฟ้าเจ้าคุณถึงสามรูป รูปแรกท่านพระครูศิลาภิรัตน์ (ญาท่านหมี) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร อดีตเจ้าคณะอำเภอรูปแรกของอำเภอธาตุพนม รูปที่สอง พระธรรมราชานุวัตร (แก้ว อุทุมมาลา) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครพนม รูปที่สาม พระพนมเจติยานุรักษ์ (จูม พิทักษ์เทพ) อดีตเจ้าอาวาสวัดมรุกขาราม ทั้งสามรูปล้วนมีถิ่นกำเนิดที่บ้านหนองหอยท่า
          ดังนั้นลูกหลานผู้อยู่เบื้องหลังยังเป็นห่วงและระลึกถึงท่านอยู่ตลอดมา ด้วยเหตุนี้เองทางนายนิสัย จันทะนะ ผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้น คณะกรรมการหมู่บ้าน และชาวบ้านจึงได้ปรึกษาหารือกันว่าอยากจะมีวัดเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระเดชพระคุณท่าน และลูกหลานต่อไปในในอนาคต เพื่อดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ประเพณี อันดีงามของบ้านเมืองสืบไป
          ที่พักสงฆ์พุทธลีลา เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๗ ขึ้น ๓ ค่ำเดือน ๑ ปีจอ ตั้งอยู่บริเวณป่าช้าบ้านหนองหอยท่า ตำบลธาตุพนมเหนือ โดยพระอาจารย์สีดา สุมนารถ ผู้นำฝ่ายสงฆ์ สำหรับป่าช้าบ้านหนองหอยท่ามีเนื้อที่น้อยและเป็นที่สาธารณะประโยชน์ นายนิสัย จันทะนะ ผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้น และคณะกรรมการหมู่บ้านได้ปรึกษากันสมควรย้ายสถานที่ตั้งใหม่ ดังนั้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๘ ปีกุน เวลา ๐๙.๓๐ น. ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านจึงได้ทำสัญญาซื้อที่ดินของนางพิมพ์ ลำทอง ซึ่งมีเนื้อที่ติดกับป่าช้าบ้านหนองหอยท่า มีเนื้อที่ทั้งหมด ๓ งาน ๘๕ ตารางวา ในราคา ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน) เป็นแปลงแรกซึ่งอยู่ในอาณาเขตหนองหอย  
ที่ดินผืนนี้เดิมทีเป็นหนองใหญ่ มีน้ำตลอดปีชาวบ้านแถวนี้ชอบมาหากินอยู่ตลอดเพราะมีกุ้ง หอย ปู ปลา มากมายและถือว่าเป็นหนองน้ำที่อุดมสมบูรณ์มาก เล่ากันว่ามีอยู่วันหนึ่งชาวบ้านได้มาหาหอย แต่บังเอิญงมได้หอยตัวใหญ่มีลักษณะสีเหลืองอร่ามเหมือนทองคำไม่เหมือนหอยทั่วไป จึงนำกลับมาที่บ้านด้วยชาวบ้านต่างแห่กันมาดูอย่างมากมาย บางคนบอกว่าจะนำไปไว้ที่วัดพระธาตุพนม พอตกดึกหอยทั้งสองตัวนั้นได้มาเข้าฝันคนที่นำมาและบอกว่า “เราจะไม่ไปไหน เราจะอยู่ตรงหนองหอยนี้” พอตื่นขึ้นจึงได้มาดูตรงที่เอาหอยทั้งคู่นั้นขังไว้แต่ปรากฏว่าหอยทั้งคู่นั้นกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ชาวบ้านได้เรียกหนองหอยแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ต่อจากนั้นวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๘ ได้ซื้อไม้เรือนเก่าของนายอาทิตย์ ลำทอง ในราคา ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) และนายอาทิตย์บริจาคกลับมา ๑,๐๐๐ บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน) และในวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๘ คณะกรรมการจึงได้ดำเนินการปักผังปลูกกุฏิขึ้นสองหลังทำอยู่สี่วันจึงแล้วเสร็จ ต่อมาวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ จึงได้ปักผังสร้างศาลาการเปรียญขึ้น โดยการนำของพระอาจารย์เจริญ สุขิโต ในระยะการก่อสร้างไม่มีการว่าจ้าง มีแต่ชาวบ้าน คณะกรรมการ และผู้ใหญ่บ้าน สร้างด้วยแรงกายแรงใจแรงศรัทธามาโดยตลอด
          ต่อมาเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๘ นายนิสัย จันทะนะ ผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้น และคณะกรรมการหมู่บ้านได้ทำสัญญาซื้อที่ดินของนายสำราญ จันทะนะ รวมสามแปลงในราคา ๕๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าแสนห้าหมื่นบาทถ้วน)  ต่อมาในวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๐ นายคำหวาง กานิล ผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้น พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้านได้ทำสัญญาซื้อที่ดินของนายบุญมา ลำทอง ในราคา ๖๐๐,๐๐๐ บาท (หกแสนบาทถ้วน)
          ในปี พ.ศ.๒๕๔๒ นายคำหวาง กานิล ผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้น คณะกรรมการหมู่บ้าน และทุกฝ่ายมีมติร่วมกันว่าจะสร้างอุโบสถกลางน้ำ เพื่อเป็นที่ทำสังฆกรรมของพระสงฆ์ และธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของบ้านเมืองเอาไว้ และเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ลูกหลานได้สืบทอดต่อไปในภายภาคหน้า สถานที่สร้างก็คือบริเวณหนองหอย โดยมีพระอาจารย์เจริญ สุขิโต เป็นผู้นำในการสร้างโดยมีพระภิกษุ สามเณร ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการทุกฝ่าย พร้อมด้วยชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกัน ในวันจันทร์ที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๒ ขึ้น ๑๑ ค่ำเดือน ๑ ปีเถาะ ได้ว่าจ้างรถแบคโครมาทำการขุดลอกหนองหอยซึ่งถือว่าเป็นวันแรกของการเริ่มสร้างอุโบสลกลางน้ำ วันอังคารที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๓ ชาวบ้านนาคำน้อย ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จำนวนหนึ่งคันรถ ๑๗-๑๘ คน ได้มาช่วยเทเสาร์เทคานร่วมกับชาวบ้านหนองหอยท่า วันพุธที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๓ ชาวบ้านหลักศิลาใต้ประมาณ ๑๘ คน ชาวบ้านศรีนคร และชาวบ้านหนองหอยท่า ได้ร่วมกันเทคานต่อจากวันที่แล้วอย่างมากมาย วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๓ ชาวบ้านนาคำน้อย ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จำนวน ๑๙ คน ได้เดินทางมาร่วมเทคานและพื้นล่างของอุโบสถร่วมกับชาวบ้านหนองหอยท่าจนแล้วเสร็จประมาณบ่ายสี่โมงเย็น
          ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๔๓ ขึ้น ๑๐ ค่ำเดือน ๕ มีการทำบุญประจำปีพร้อมทั้งพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถกลางน้ำ โดยได้กราบอาราธนานิมนต์พระเดชพระคุณพระธรรมปริยัติมุนี (นวน เขมจารี) เพื่อมาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถกลางน้ำในครั้งนี้ และอุโบสถหลังนี้สร้างเสร็จเมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๔๔ โดยใช้เวลาในการสร้างเพียงหนึ่งปีเท่านั้น นี้เป็นเพราะความร่วมแรงร่วมใจสมัครสมานสามัคคีของชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนทุกคน
          วันจันทร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๑ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ปีชวด ที่พักสงฆ์พุทธลีลา ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ในการสร้างพระพุทธอุดมมงคลไพศาลจักวาฬประสิทธิ์ หรือหลวงพ่อพุทธลีลา มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนและให้คงอยู่คู่พระพุทธศาสนา อีกอย่างเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของที่พักสงฆ์แห่งนี้ดังชื่อ โดยมีผู้นำในการสร้างคือพระสมุห์พงษ์ประพันธ์ สิริปุญฺโญ และนายสงวน แสงสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหนองหอยท่า ในสมัยนั้น เป็นผู้นำฝ่ายบ้านเมือง สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๕๕๕
          ต่อมาในปี ๒๕๕๖ นายวิชัย ฮาดวิเศษ ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน พร้อมทั้งชาวบ้านหนองหอยท่า ได้มีการตกลงซื้อที่ดินเพิ่มเติมบริเวณหน้าวัดติดถนนใหญ่ซึ่งเป็นสหกรณ์หมูของท่าน ส.ส.ไพจิต ศรีวรขาน ในราคา ๗๐๐,๐๐๐ บาท (เจ็ดแสนบาทถ้วน) ทางวัดมีการซื้อที่ดินรวมสี่ครั้งรวมเป็นเงินจำนวน ๒,๐๕๐,๐๐๐ บาท (สองล้านห้าหมื่นบาทถ้วน)
ปัจจุบันที่พักสงฆ์พุทธลีลา มีเนื้อที่ทั้งหมด ๕ ไร่ ๒ งาน ทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำโขง ทิศตะวันตกติดกับถนนชยางกูรทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑๒ ทิศเหนือติดกับศูนย์สูบน้ำพระกลางทุ่ง ทิศใต้ติดกับถนนรอบหมู่บ้านหนองหอยท่า ห่างจากวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร ๒ กิโลเมตร ห่างจากตัวจังหวัดนครพนม ๕๑ กิโลเมตร การเดินทางสามารถนั่งรถตู้นคพนม – มุกดาหาร ลงหน้าวัดได้เลย
 
 
 
บันทึกใว้โดย
นายคำจันทร์  กุ่มมาลา
อดีตผู้ใหญ่บ้านหนองหอยท่า
 
เรียบเรียงโดย
พระภานุวัฒน์  ปญฺญาวชิโร
ประธานที่พักสงฆ์พุทธลีลา

เอกสารเกี่ยวกับวัด 3 : (253.68 kb)