ปูชนียวัตถุสถาน
หลวงพ่อเงิน ๗๐๐ ปี
รายละเอียด
ประวัติ หลวงพ่อเงิน ๗๐๐ ปี (โดยสังเขป)
พระชัยหลังช้างแห่งแผ่นดินอีสาน
**************
หลวงพ่อเงิน พระชัยหลังช้างแห่งแผ่นดินอีสาน เป็นพระพุทธรูปหุ้มด้วยเนื้อเงินบริสุทธิ์ ปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนลานช้างอายุกว่า ๗๐๐ ปี ถูกขุดพบที่วัดป่าพระพิฆเณศวร์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๕ โดยการนิมิตของท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ (บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล) ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดปากน้ำ (บุ่งสระพัง) ตำบลกุดลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
หลวงพ่อเงิน เกี่ยวข้องกับการสถาปนาเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย เนื่องจากเป็นพระพุทธรูป ประจำกองทัพเจ้าปางคำ แห่งราชวงศ์เชียงรุ้ง แสนหวีฟ้า สิบสองปันนา ที่แตกหนีกองทัพจีนฮ่อ มาสร้างนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน หนองบัวลุ่มภู
ในราวปี พ.ศ.๒๒๒๘ เจ้าปางคำ ได้อัญเชิญหลวงพ่อเงิน ขึ้นเป็นพระชัยหลังช้างประจำกองทัพ ตามธรรมเนียมนักรบโบราณ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ต่อมาราว พ.ศ.๒๓๑๔ พระเจ้าสิริบุญสารได้เสด็จขึ้นครองนครเวียงจันทน์ เกิดหวาดระแวงเจ้าพระวอ-เจ้าพระตาจะเป็นกบฏ จึงได้ยกทัพมาตี นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ทำให้เจ้าพระตาถึงแก่ อสัญกรรมในสมรภูมิรบ เจ้าพระวอผู้น้องขึ้นเป็นผู้นำกองทัพ และได้อพยพประชาชน มาตั้งบ้านเมือง อยู่ที่ค่ายดอนมดแดง สร้างเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย ภายหลัง เจ้าพระวอ ถูกฝ่ายเวียงจันทน์ ตามโจมตี จนถึงอสัญกรรมที่ค่ายบ้าน คู่บ้านแก เขตนครจำปาศักดิ์ และท้าวคำผงผู้บุตรเจ้าพระตา ได้ขึ้นเป็นผู้นำกองทัพเห็นว่าค่ายบ้านดอนมดแดง จะต้านทานกองทัพเวียงจันทน์ไม่ไหว จึงได้ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระเจ้ากรุงธนบุรี
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งกรุงธนบุรี ทรงรับสั่งให้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ครั้งดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพยกไปช่วย เมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย โดยให้ท้าวคำผงเป็นทัพหน้า นำทัพขึ้นไปตีเมืองเวียงจันทน์ จนประสบชัยชนะ และได้อัญเชิญพระแก้วมรกต และพระบางสู่สยามประเทศ หลวงพ่อเงินจึงเป็นพระพุทธรูป ที่เกี่ยวข้องกับการอัญเชิญพระแก้วมรกตสู่ประเทศไทย
การศึกครั้งนั้น ทำให้หลวงพ่อเงินเป็นที่ประจักษ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ ต่อกองทัพกรุงธนบุรี ท้าวคำผงเกรงจะ ถูกอัญเชิญสู่นครหลวง เช่นพระพุทธรูปที่สำคัญของหัวเมืองต่าง ๆ จึงเก็บรักษาไว้ใต้ดิน จนเวลาผ่านไปกว่า ๒๐๐ ปี
ขณะที่ทหารฝ่าสหรัฐอเมริกากำลังขับเคี่ยวกันอย่างหนัก ในมหาสงครามเวียดนาม ได้เกิดลำแสงพุ่งขึ้น ใส่เครื่องบินกองทัพสหรัฐอเมริกา จากบริเวณวัดป่าพระพิฆเณศวร์ เป็นเหตุ ให้เครื่องบินเสียหลักตก ภายหลัง เหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ออกบินลาดตระเวนจุดที่เกิดลำแสงเป็นประจำ ขณะที่ทหารนำเครื่องบิน ออกปฏิบัติการตามปกติ ถึงวัดป่าพระพิฆเณศวร์ ก็เห็นลำแสง จากบริเวณป่าดังกล่าว พุ่งตรงเข้าใส่เครื่องบิน ทันทีที่ คำรายงานผ่านจากเครื่องบิน บนท้องฟ้า ส่งตรงไปยังฐานทัพ หน่วยเคลื่อนที่เร็วของทหารอเมริกา ก็รุกคืบเข้าผืนป่าแห่งนั้น ผืนป่าถูกปิดล้อม หมู่บ้านถูกเข้า ตรวจค้น แต่ก็ไร้วี่แววของสิ่งผิดปกติใด ๆ ทำให้ทหารอเมริกาเกิด ความแปลกประหลาดใจ
ต่อมา ทหารสหรัฐอเมริกา ได้รับฟังเรื่องราวจากท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ ถึงความน่าอัศจรรย์ของ ผืนป่าแห่งนี้ว่า มักจะมีลำแสงพุ่งขึ้นในวันพระ ๑๕ ค่ำ แม้ทหารสหรัฐอเมริกา ก็ประจักษ์เหตุการณ์ดังกล่าวด้วยตนเอง จนเกิดศรัทธานำไปสู่การสร้างโบสถ์มิตรภาพไทย-อเมริกันขึ้น ณ วัดปากน้ำ (บุ่งสระพัง) แต่อุโบสถยังไม่แล้วเสร็จ ทหารหน่วยดังกล่าว ก็ได้รับคำสั่งให้ถอนตัวออกจากฐานบินอุบลราชธานี อุโบสถจึงถูกปล่อยทิ้งค้างไว้นานหลายปี
คืนหนึ่ง ท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ นิมิตถึงตาชีปะขาว มาอาราธนาให้สร้างอุโบสถ ต่อให้เสร็จ ท่านแย้งว่า ไม่มีเงินที่จะสร้างได้ ตาชีปะขาวจึงบอกให้ไปอัญเชิญของสำคัญมีค่า ที่วัดป่าพระพิฆเณศวร์ นั่นก็คือ พระพุทธรูปประจำกองทัพเจ้าเมืองเก่า ถูกฝังอยู่ใต้ดิน อัญเชิญ ขึ้นมารักษาไว้ให้ดี เพื่อเป็นสมบัติพระศาสนา ให้ลูกหลานได้เคารพ สักการบูชาสืบไป ท่านจึงนำชาวบ้าน ไปขุดตามนิมิตบอกก็พบศิลา ๔ เหลี่ยม ถูกจัดไว้ในลักษณะหีบ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป ปางมารวิชัย เนื้อเงินบริสุทธิ์ ท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ จึงได้อัญเชิญหลวงพ่อเงินมาประดิษฐานไว้ ที่วัดปากน้ำ ตราบจนถึงปัจจุบัน
โดย : วัดปากน้ำ (บุ่งสระพัง)
ที่อยู่ : ต.กุดลาด อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี
จำนวนเข้าดู : 104
ปรับปรุงล่าสุด : 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565 13:14:25
ข้อมูลเมื่อ : 26 มิถุนายน พ.ศ. 2565 22:39:07