ศูนย์สารสนเทศคณะสงฆ์ภาค ๑๐

สมาชิกเข้าสู่ระบบ

ลืมรหัสผ่าน

สถิติสารสนเทศ

วัด

พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร

1 วัด

พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ

10 วัด

วัดราษฎร์

5385 วัด

สำนักสงฆ์

70 วัด

ที่พักสงฆ์

364 วัด

วัดร้าง

4 วัด

วัดทั้งหมด

5834 วัด

ศาสนบุคคลไทย

พระภิกษุ

8967 รูป

สามเณร

800 รูป

แม่ชี

31 รูป

ศิษย์วัด

8 คน

บุคคลทั่วไปชาย

4 คน

บุคคลทั่วไปหญิง

0 คน

ทั้งหมด

9810 รูป/คน

ศาสนบุคคลต่างชาติ

พระภิกษุ

42 รูป

สามเณร

3 รูป

แม่ชี

0 รูป

ศิษย์วัด

0 คน

บุคคลทั่วไปชาย

0 คน

บุคคลทั่วไปหญิง

0 คน

ทั้งหมด

45 รูป/คน

สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน

พระบวชใหม่

7493 รูป

ลาสิกขา

29 รูป

มรณภาพ

10 รูป

ข้อมูลทั่วไป

QR Code วัดสะดำ

รหัสวัด
04330811002

ชื่อวัด
วัดสะดำ

นิกาย
มหานิกาย

ประเภทวัด
วัดราษฎร์

วันตั้งวัด
ปี 2465

วันรับวิสุงคามสีมา
วันที่ 15 เดือน มกราคม ปี 2513

ที่อยู่
บ้านสะดำ

เลขที่
91

หมู่ที่
13

ซอย
-

ถนน
-

แขวง / ตำบล
โพธิ์กระสังข์

เขต / อำเภอ
ขุนหาญ

จังหวัด
ศรีสะเกษ

ไปรษณีย์
33150

เนื้อที่
10 ไร่ - งาน 43 ตารางวา

มือถือ
0857804088

คุณสมบัติวัด

เป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์

เป็นหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อปต.)

จำนวนเข้าดู : 109

ปรับปรุงล่าสุด : 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 23:41:53

ข้อมูลเมื่อ : 24 มิถุนายน พ.ศ. 2565 20:33:00

ประวัติความเป็นมา

ประวัติวัดสะดำ

วัดสะดำ ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ความเป็นมาดั้งเดิมในสมัยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้มีบุคคลท่านหนึ่ง ในเขตอำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ มีตำแหน่งทางหมอช้างชั้น “สะด” ซึ่งคนทั้งหลายให้ความเคารพและเชื่อถือท่านตลอดมา เพราะท่านเป็นคนที่มีความชำนาญในการคลองช้างมาก ในการคล้องช้างนั้นมักจะพาคณะมาในแถวเขตเขาพนมดงรัก และเขาพระวิหารเป็นประจำในการเดินทางไปมาแต่ละครั้งมักจะพาคณะมาพักแรมอยู่ที่ “โนนกอก” เมื่อมาเป็นประจำและมีประชาชนเพิ่มจำนวนมากขึ้น สถานที่นั้นจึงเกิดเป็นหมู่บ้านขึ้น โดยใช้ชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านสะดใต้” และได้พาพรรคพวกไปคล้องข้างทางทิศเหนือห่างจากหมู่บ้านสะดำใต้ ประมาณ 9 กิโลเมตร โดยข้างที่คล้องได้นั้นก็จะนำไปใช้งานที่อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาหมู่บ้านทั้งสองคือ “บ้านสะดใต้ และบ้านสะดำ” ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดสะดำในปัจจุบันได้รวมตัวกันตั้งวัดขึ้นทางทิศใต้ของหมู่บ้าน ชื่อว่า “วัดบ้านสะดำใต้” เพื่อใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศลและปฏิบัติธรรมของประชาชนเนื่องจากวัดดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านมาก การไปมาทำบุญไม่สะดวก จึงยกเลิกวัดนั้น มาสร้างวัดแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านละ ชื่อว่า“วัดบ้านสะดำ ส่วนบ้านบก ก็มีบรรพบุรุษในสมัยนั้น คือ ผู้ที่มาจากบ้านไทรมาตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเกิด" บ้านบก ขึ้น ในปัจจุบัน

บ้านสะดำได้ประสบภัย

ต่อมาบ้านจะได้ เกิดอหิวาตกโรคระบาดอย่างหนัก ด้วยโรคนี้ได้แพร่ระบาดต่อคนได้รวดเร็ว ชาวบ้านที่ติดเชื้อก็ต้องตายในเวลาไม่นาน เนื่องจากในสมัยนั้นไม่มีหมอที่มีความรู้พอที่จะรักษาโรคร้ายแรงชนิดนี้ได้ อีกทั้งยังไม่มียารักษาโรคด้วย ชาวบ้านจึงพากันอพยพไปอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ คือ บ้านหนองประดิษฐ์ บ้านตาตา บ้านโนนสูง บ้านโพธิ์กระสังข์ และที่อื่น ๆ “บ้านสะดำใต้” ก็เลยต้องร้างโดยปริยาย หาสถานที่ก่อตั้งวัดใหม่ในเวลาเดียวกัน คณะชาวบ้านซึ่งประกอบด้วย คุณพ่อเสียงโพธิ์ คุณพ่อโต๊ะ คุณพ่อโนะ คุณพ่อโม คุณแม่ศรียา ได้ช่วยกัน หาที่ดินสร้างวัดโดยได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์ซื้อที่ดินของคุณแม่พิมพ์ สุดสังข์ ในจำนวนเงิน สามสิบตำลึง (๑๒๐ บาท ในปัจจุบัน) ได้ที่ดิน 4 ไร่ ๒ งาน เป็นสถานที่ก่องสร้าง “วัดสะดำ” จนถึงทุกวันนี้ และได้นิมนต์พระสงฆ์ จากวัดตาอุด และพระจากวัดวัดบ้านสะเดาใต้ มาอยู่ในปี พ.ศ.๒๔๖๕ เป็นต้นมา

รับพระราชทานวิสุงคามสีมา

วัดสะดำ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ปัจจุบัน วัดละดำ ตั้งอยู่เลขที่ ๙๑ หมู่ ๑๓ ตำบลโพธิ์กระสังข์ (เขตปกครองคณะสงฆ์เป็นตำบลขุนหาร) อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ มีอาณาเขตดังนี้

ทิศเหนือ ติดกับ บ้านสะคำน้อย ทิศใต้ ติดกับ ชายทุ่ง

ทิศตะวันออก ติดกับ ชายทุ่งและบ้านสะดำ ทิศตะวันวันตก ติดกับ บ้านบก

*************************************