ข้อมูลทั่วไป
QR Code วัดบกจันทร์นคร
รหัสวัด
04330509001
ชื่อวัด
วัดบกจันทร์นคร
นิกาย
มหานิกาย
ประเภทวัด
วัดราษฎร์
วันตั้งวัด
ปี 2400
วันรับวิสุงคามสีมา
วันที่ 31 เดือน มีนาคม ปี 2549
ที่อยู่
วัดบกจันทร์นคร
เลขที่
๘๘
หมู่ที่
๑๓
ซอย
-
ถนน
-
แขวง / ตำบล
ห้วยเหนือ
เขต / อำเภอ
ขุขันธ์
จังหวัด
ศรีสะเกษ
ไปรษณีย์
33140
เนื้อที่
๓๑ ไร่ ๑๒ งาน - ตารางวา
จำนวนเข้าดู : 36
ปรับปรุงล่าสุด : 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565 20:44:17
ข้อมูลเมื่อ : 24 มิถุนายน พ.ศ. 2565 16:50:00
ประวัติความเป็นมา
วัดบกจันทร์นคร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองขุขันธ์ (บริเวณบ้านบก ตำบลห้วยเหนือ อำเภอขุขันธ์ในปัจจุบัน) ทำการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๖ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชการที่ ๑ โดยพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน(บุญจันทร์) เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ ๓ ได้ย้ายที่ทำการเมืองไปตั้งบริเวณดังกล่าวแล้ว เพราะบ้านบกเป็นชาวเวียงจันทร์อพยพมาอาศัยอยู่เมื่อปี ๒๓๒๒ ได้สร้างวัดขึ้นตั้งชื่อว่า “วัดบกจันทร์นคร” เพื่อเป็นอนุสรณ์ของชาวเวียงจันทร์และกำหนดให้เป็นวัดประจำเมืองเป็นที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาและประกอบศาสนพิธีอื่นๆ
วัดบกจันทร์นคร ตั้งอยู่กลางชุมชุนสองกลุ่มทางทิศตะวันตกของวัดเรียกตามภาษาท้องถิ่นว่า (สรอกกะนงเวียง)แปลได้ความแปลว่า บ้านในวังหรือในเวียง ส่วนหมู่บ้านทางทิศตะวันออกของวัดหรือคุ้มคุณตาบุญถึง ขุขันธิน บุตรยาขุขันธ์ฯ(ท้าวปัญญา ขุขันธิน) เรียกว่า บ้านบก แต่เดิมวัดมีเนื้อที่ ๙ ไร่เศษ ต่อมาขุนศรีสุภาพพงษ์ (บุญนาค ศรีสุภาพ) บุตรเขยของพระยาขุขันธ์ฯ (ท้าวปัญญา ขุขันธิน) ได้ถวายที่ดินทางทิศตะวันออกให้วัดจำนวนประมาณ ๕ ไร่
สมัยก่อนอุโบสถวัดบ้านบกหลังคามุงด้วยกระเบื้องไม้ไม่มีมีผนังทั้งสี่ด้านภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปโบราณสององค์และพระไม้หนึ่งองค์เป็นประธาน ลักษณะศิลปะลาวล้านช้าง (หรือลาวช้าง) พระพุทธรูปสององค์นี้ คงจะนำมาจากประเทศลาวเมื่อครั้งหลวงปราบเชียงขันร่วมทัพไปตีกรุงศรีสัตนคนหุต (เวียงจันทร์) พ.ศ. ๒๓๒๑ โดยสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึกพระยศในขณะนั้น ทรงเป็นแม่ทำ และโบราณวัตถุอีกหลายชิ้นล้วนผีมือลาวล้านช้างทั้งสิ้น ต่อมาภายหลังสิ่งของโบราณเหล่านี้ได้สูญหายไปเกือบทั้งหมดสิ้น หน้าอุโบสถมีเจดีย์เก่าแก่หนึ่งองค์ เรียกแต่โบราณมาว่า เจดีย์สิม เป็นเจดีย์เก่าแก่คู่มากับวัด(เล่นกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก)กลางปี พ.ศ. ๒๕๑๔ วัดบกไม่มีเจ้าอาวาสปกครอง คณะกรรมวัดจึงแต่งตั้งให้พระวิฑูรย์ ศิษย์ท่านพระครูประกาศธรรมวัตรหลวงพ่อสาย วัดตะเคียนราม อ.ภูสิงห์ รักษาการอาวาสภายหลังอุโบสถ ซึ่งได้บูรณะใหม่เรียบร้อยแล้วได้สร้างพระพุทธรูป ขนาดใหญ่เป็นโลหะสำฤทธิ์หน้าตั้งกว้างขนาดหนึ่งเมตรครอบพระพุทธรูปองค์เดิม(พระไม้) เป็นพระประธานในอุโบสถ ต่อมานายบุญถึง ขุขันธิน และนายสวาท ไชยโพธิ์ และชาวบ้านบกได้ร่วมกันสร้างประพุทธรูป พระประธานองค์ใหม่ในอุโบสถขนาดใหญ่
ดังที่ท่านได้เห็นในปัจจุบันนี้ ประชาชนชาวอำเภอขุขันธ์ ได้ร่วมบริจาคทรัพย์ในการครั้งนี้ด้วย ด้วยพระประธานองค์ใหม่นี้เมื่อสร้างเสร็จได้ให้ประชาชนนำสิ่งของมีค่าหรือวัตถุมงคล ไปบรรจุในช่องอก (พระอุระ) เมื่อพิธีบรรจุเสร็จสิ้นแล้วช่างทำการปิดพระอุระอย่างถาวรเมื่อมีการสร้างพระประธานองค์ใหม่ภายในอุโบสถ พระพุทธรูปโบราณสององค์ ก็ถูกขโมยยอดพระเศียรไป เนื่องจากสามารถถอดออกได้ ของเก่าหล่อด้วยโลหะสำฤทธิ์ผีมืองดงามมาก ต่อมาช่างได้ทำของใหม่สวมไว้แทนของเก่าที่ถูกขโมยไปแต่ฝีมือทำไม่ได้เหมือนนัก จึงดูไม่เข้ากับยุคสมัยเท่าที่ควร ต่อมาทางวัดได้ทาสีพระพุทธรูปโบราณทั้งสององค์ ซึ่งถ้าหากไม่รู้ก็จะดูว่าเป็นของใหม่ ที่วัดบ้านบกมีพระพุทธโบราณ อายุไม่ต่ำกว่า ๓๐๐-๔๐๐ ปี ฝีมือชาวล้านช้าง เป็นมรดกตกทอดมาให้เห็นดังเช่นทุกวันนี้ชุมชน วัดจันทร์นคร ในอดีตมีชุมชนอยู่ ๒ ชุมชน อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน๑.ชุมชนที่ประกอบด้วย บ้านบกและบ้านแดงจะมีภาษาพูดเป็นภาษาลาว มีวัฒนธรรมคล้ายๆ ชาวลาว เนื่องจากเป็นกลุ่มชนที่ เมื่อครั้งที่ไทยชนะศึกสงครามที่เวียงจันทร์ แล้วหลวงปราบได้กวาดต้อนเอาพลเมืองชาวลาวกลับมาด้วย โดยเฉพาะได้นางคำเวียง หญิงหม้ายตระกูลสูงพร้อมบริวารให้มาพำนัดตั้งหลักแหล่ง ณ บ้านบก โดยท่านได้นางคำเวียง เป็นภรรยาซางลูกชายติดนางคำเวียงมาด้วยก็คือ “ พระไกร ” หรือ พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองคนที่ ๓ นั้นเอง ซึ่งยังมีทายาทเชื้อสายชาวลาว ปรากฏอยู่ ณ ชุมชนบ้านบกและบ้านแดงจนทุกวันนี้๒. ชุมชนที่อยู่คุ้มทิศตะวันตกของวัดจันทร์นคร เป็นชนเผ่าที่พูดเขมร เรียกคุ้มนี้ว่า คุ้มบ้านวัง หรือ บ้านเสียง (ซรกกะนงเวียง) เป็นบ้านที่อยู่ของเจ้าเมืองขุขันธ์เดิมปัจจุบันอุโบสถหลังเก่าได้รื้อไปหมดแล้ว
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๔ และได้ก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ โดยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทยประยุกต์ ซึ่งได้ทำการออกแบบ ควบคุมการก่อสร้างโดย นาย แสวง น้อยวงศ์ ซึ่งแล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยการนำของ พระครูจันทนาคราภิวัฒน์ (บุญส่ง สิริจนฺโท) อดีตเจ้าอาวาสวัดบกจันทร์นครและผู้ใหญ่บ้านคณะกรรมการวัด ทายกทายิกา ไวยาวัจกร ข้าราชการ พ่อค้าประชาชน สิ้นงบประมาณทั้งสิ้น ๖,๖๘๑,๙๕๙ ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน.