เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ นายบัว ภิญโญ ผู้ใหญ่บ้านสำราญ หมู่ที่ ๕ ได้นำพาญาติโยมชาวบ้านสำราญที่มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาประชุมกัน โดยปรารภว่าวัดหัวเรืออยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านสำราญ ยากลำบากในการเดินทางไปบำเพ็ญบุญกุศลจึงได้ดำริประสงค์จะสร้างวัดขึ้นในหมู่บ้านสำราญ
โดยเริ่มแรกได้มีผู้ประสงค์จะบริจาคที่ดินสำหรับสร้างวัด ดังนี้
                     ๑. คุณแม่หนู - พ่อใหญ่มา สายแวว ได้บริจาคที่ดินบริเวณโนนไทย แต่ชาวบ้านเห็นว่าอยู่ด้านข้างหมู่บ้าน และใกล้เขตบ้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะกลิ่นอาหารหรือกลิ่นต่างๆ อาจลอยลมไปเป็นอุปสรรคในการบำเพ็ญเพียรของพระภิกษุสงฆ์จึงยังไม่สร้างวัดในที่นั้น
                      ๒. พ่อใหญ่ลี – แม่ใหญ่ป้อง ชูหา ได้บริจาคที่ดินบริเวณทางทิศใต้ของหมู่บ้าน แต่ในที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นว่ายังไม่เหมาะสมอีกเช่นกันจึงยังไม่สร้างวัดในที่นั้น
                      ๓. พ่อใหญ่หนู – แม่ใหญ่มา อยู่สุข ได้บริจาคที่ดินบริเวณทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน และชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นว่าสมควร และเหมาะสมที่สุดแล้ว จึงมีความเห็นตรงกันสร้างวัดขึ้นในที่นั้น และเป็นที่ตั้งวัดบ้านสำราญมาจนปัจจุบันนี้
                      หลังจากที่เริ่มสร้างวัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๙ จนถึงปี ๒๕๓๘ นายคำใบ สายแวว ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านสำราญก็ได้รับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ตั้งวัดในพระพุทธศาสนา โดยได้ตั้งชื่อว่า วัดสำราญ ในการก่อสร้างเบื้องต้นนั้นโดยนับ เมื่อ ๒๕๑๙ ได้มี หลวงพ่อพระครูศาสนกิจจาทร (พ่อท่านทอง) เจ้าอาวาสวัดหัวเรือ ได้นำพาญาติโยมชาวบ้านสร้างถาวรวัตถุและให้คำปรึกษาต่างๆ และได้เมตตาส่งพระภิกษุในวัดหัวเรือมาอยู่ดูแลเสนาสนะ เจริญศรัทธา และปกครองคณะสงฆ์วัดสำราญพอทราบนาม ดังนี้ ๑. ญาคูเหล็ก          ๒. พ่อครูสี ฐานวโร       ๓. จารย์ครูมี    ๔. จารย์ครูวัน สายแวว   ๕. จารครูสา สายแวว 
                    โดยทั้งหมดนี้ล้วนมาอยู่จำพรรษาได้ไม่นาน ก็ลาสิกขาจากเพศสมณะไป หรือไม่เช่นนั้นก็กลับไปยังวัดสังกัดเดิมจนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๒๐ พระสี อนาลโย ซึ่งเป็นคนในบ้านสำราญมาบวชในพระพุทธศาสนาและมีประสงค์มาจำพรรษาที่วัดสำราญซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี พ.ศ..๒๕๓๙ โดยได้ปกครองคณะสงฆ์วัดสำราญมาจนถึงปี พ.ศ.๒๕๕๕ ก็ได้มรณภาพไป ปัจจุบันมีพระปลัดอภิเชษฐ์ โกสโล ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส

Google Map Link
กดดู