ข้อมูลทั่วไป
QR Code โพนทอง
รหัสวัด
04370502002
ชื่อวัด
โพนทอง
นิกาย
มหานิกาย
ประเภทวัด
วัดราษฎร์
วันตั้งวัด
ปี 2466
วันรับวิสุงคามสีมา
ปี 2525
ที่อยู่
บ้านโพนทอง
เลขที่
๕๘
หมู่ที่
๔
ซอย
-
ถนน
-
แขวง / ตำบล
โพนทอง
เขต / อำเภอ
เสนางคนิคม
จังหวัด
อำนาจเจริญ
ไปรษณีย์
๓๗๒๙๐
เนื้อที่
๑๒ ไร่ - งาน - ตารางวา
มือถือ
๐๘๕๘๘๕๓๔๙๘
จำนวนเข้าดู : 42
ปรับปรุงล่าสุด : 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 09:31:57
ข้อมูลเมื่อ : 00:00:00
ประวัติความเป็นมา
ประวัติวัดโพนทอง
บ้านโพนทอง สมัยเมื่อเป็นเมืองเหมราฐธานี เข้าใจว่าวัดคงอยู่ที่คุ้มบ้านใต้ ที่มีต้นโพธิ์ปรากฏอยู่ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เมื่อสมัยบ้านโพนทองอยู่บ้านเก่า วัดแรคงอยู่ที่นานายสง ไชยส่ง ซึ่งเมื่อก่อนมีต้นโพธิ์อยู่ ๒ ต้น ติดกับนาใหญ่ โบสถ์ไม่มี ใช้สีมาน้ำ ที่หนองสิมเทิงและหนองสิมใต้ ภายหลังจึงได้สร้างโบสถ์ ก่อด้วยอิฐถือปูนที่บ้านเก่าใกล้ต้นมะม่วงกะสอ เมื่อย้ายบ้านมาอยู่ที่ดอนเมืองในปัจจุบันนี้ ได้สร้างวัดขึ้นทางทิศใต้ของบ้านโนนทางทิศตะวันออกของบ้านใน ได้แก่วัดปัจจุบันนี้ การสร้างโบสถ์มี ๔ ยุคด้วยกัน คือ ยุคแรกใช้สีมาน้ำ โดยขุดสระขึ้นภายในวัดด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วปลูกโรงอุโบสถในสระนั้น ใช้เป็นที่ทำสังฆกรรมของสงฆ์ สระนั้นจึงเรียกว่าหนองสิมจนตราบเท่าทุกวันนี้ ยุคที่ ๒ โบสถ์ก่ออิฐถือปูน ฝาผนังด้านหลังปิดทึบ ด้านหน้าเปิดฝาผนังทั้ง ๒ ข้าง ทำเป็น ๓ ตอน ตอนติดกับด้านหลัง ทำทึบ ตอนถัดมา ทำลดต่ำมาเป็น ๒ ลด จนถึงด้านหน้า เพื่อไม่ต้องใช้หน้าต่าง มีทางขึ้นด้านเดียว โบสถ์นี้สร้างขึ้นในสมัยหลวงปู่อุปัชฌาย์ศรีเป็นเจ้าอาวาส และมีนางเทพมณีภรรยาของท้าวไชย บุตรพระเทพวงศา (บุญเฮ้า) เป็นผู้อุปถัมภ์ ยุคที่ ๓ โบสถ์ก่อด้วยอิฐถือปูนปิดทั้ง ๔ ด้าน มีหน้าต่างด้านข้าง ด้านละ ๑ หน้าต่าง มีประตูและบันไดขึ้นทางด้านหน้า สร้างโดยช่างญวน เริ่มปั่นอิฐเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๔ สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๕ สมัยพระมีและพระจันทร์ เป็นผู้ดูแลวัด นายเคน ไชยเสริฐ เป็นกำนัน นายชาลี เจริญรัตน์ เป็นมัคนายก สร้างโดยทนของชาวบ้าน โดยไม่ได้เรี่ยไรเลย ยุคที่ ๔ คือโบสถ์หลังปัจจุบันนี้ รากฐานก่อด้วยอิฐถือปูน เสาและเพดานเทคอนกรีต เสริมเหล็กฉาบปูน ฝาผนังก่ออิฐถือปูน หลังคาตัดเป็น ๒ หลังซ้อน หลังละ ๓ ลด มีมุขทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มุงกระเบื้องเคลือบชนิดกาบกล้วย ประดับช่อฟ้าใบระกา เสามุขทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ๘ ต้น ปิดกระเบื้องโมเสดสีน้ำเงิน เสียใจที่ไม่เป็นกระเบื้องโมเสดสีทอง ตามที่ผู้เขียนสั่ง มีประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีหน้าต่าง ๖ ช่อง ก่อซุ้มเบื้องบนทุกช่อง ทั้งประตูและหน้าต่าง บานประตูมีหน้าต่างทำด้วยไม้แดงสลักลวดลายสวยงาม หน้าบันทั้ง ๒ ด้าน ปั้นลวดลายด้วยปูนอย่างประณีตบรรจง มีบันไดพญานาคขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พื้นชั้นในและระเบียงตลอดถึงบันได ปูหินขัด ฐานโบสถ์มีความยาว ๑๕.๗๐ เมตร กว้าง ๖.๑๐ เมตร สูง ๑๓.๘๐ เมตร นายช่างไพฑูรย์ แก่นสาร เป็นผู้ออกแบบและตรวจการก่อสร้าง วางศิลามงคลเมื่อวันที่ ๒๘ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๒ ยกช่อฟ้าเมื่อวันที่ ๗ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๓ สร้างเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๕ และได้สร้างกำแพงแก้วรอบโบสถทั้ง ๔ ด้าน ก่ออิฐถือปูน เสาเทคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาวด้านละ ๓๒.๐๒ เมตร กว้างด้านละ ๑๔.๒๐ เมตร สูง ๑.๓๐ เมตร สำเร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๖ รวมเวลาสร้างโบสถ์ ๓ ปีเศษ และปรับพื้นสร้างกำแพงแก้วอีก รวมเวลาทั้งสิ้น ๔ ปี ๒ เดือนเศษสิ้นเงินค่าก่อสร้างรวมทั้งสิ้น ๙๔๐,๘๗๖.๓๘ บาท (เก้าแสนสี่หมื่นแปดร้อยเจ็ดสิหกบาทสามสิบแปดสตางค์) ในสมัยหลวงพ่อมุล อิสฺสโร เป็นเจ้าอาวาส ปัจจุบันมี พระครูสุวรรณธรรมโสภิต เป็นเจ้าอาวาส
รายการพระ
พระครูสุวรรณธรรมโสภิต ปสนฺโน
ตำแหน่ง : เจ้าอาวาส
ข้อมูลเมื่อ : 15-07-2565
ปรับปรุงล่าสุด : 31-07-2565