ข้อมูลทั่วไป
QR Code เมืองน้อย
รหัสวัด
04330309003
ชื่อวัด
เมืองน้อย
นิกาย
มหานิกาย
ประเภทวัด
วัดราษฎร์
วันตั้งวัด
ปี 2450
วันรับวิสุงคามสีมา
ปี 2475
ที่อยู่
วัดเมืองน้อย
เลขที่
146
หมู่ที่
7
ซอย
-
ถนน
-
แขวง / ตำบล
เมืองน้อย
เขต / อำเภอ
กันทรารมย์
จังหวัด
ศรีสะเกษ
ไปรษณีย์
33130
เนื้อที่
14 ไร่ 3 งาน 96 ตารางวา
เว็บไซต์
คลิกดู
มือถือ
0986865028
คุณสมบัติวัด
จำนวนเข้าดู : 53
ปรับปรุงล่าสุด : 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 09:05:18
ข้อมูลเมื่อ : 24 มิถุนายน พ.ศ. 2565 20:33:00
ประวัติความเป็นมา
ประวิติการตั้งวัดของบ้านเมืองน้อยนั้น ไม่มีผู้ใดจำได้แน่นอน แต่ชาวบ้านได้เล่าสืบกันมาว่า ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธโดยเคร่งครัด เข้าวัดฟังธรรม จำศีล ภาวนา มีความเกรงกลัวต่อบาป ยึดมั่นในประเพณีศาสนาสืบมาจนปัจจุบัน จึงเชื่อได้ว่าการสร้างวัดนั้นน่าจะมีพร้อมกับการตั้งหมู่บ้าน คือประมาณ ปีพ.ศ ๒๓๒๓ เพราะสัญลักษณ์ที่บ่งบอกแห่งความเก่าแก่ชองการสร้างวัดที่ประจักษ์แก่สายตาของบุตรหลานก็คือ วัดเก่า ซึ่งตั้งอยู่ท่างทิศตะวันตกของหมู่บ้านติดกับหนองวัด มีโบสถ์เก่าเป็นอนุสรณ์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุการก่อสร้างไม่น้อยกว่า 200 ปี ปัจจุบันก็ยังเป็นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งมีต้นหมาก มะพร้าว มะม่วง และอื่นๆ .โดยเฉพาะปัจจุบันเป็นที่อนุรักษ์ป่าไม้เป็นอย่างดียิ่ง
ส่วนเจ้าอาวาสวัดนั้น ไม่ทราบแน่นอนว่าเป็นพระรูปใด เริ่มแรก เพียงทราบจากคนเฒ่าคนแก่ได้เล่าและยืนยันว่ารู้เห็นที่พอจะจำได้มีชื่อดังต่อไปนี้
1. พระอธิการโท พระรูปนี้เป็นผู้เฉลียวฉลาด ทำให้วัดมีความเจริญก้าวหน้า เพราะเคยจำอยู่ที่วัดทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
2. พระอธิการฮุย
3. พระอธิการสีดา บุญเสนอ
4. พระอธิการบุญ เขียวอ่อน
5. พระอธิการแพง
6. พระอธิการมี
7. พระอธิการสา ( สุริยะ คำศรี )
8. พระอธิการนวล ( ปู่คำศรี ) น้องชายสุริยะ คำศรี
9. พระอธิการมั่น
๑๐. พระอธิการเพ็ง
๑๑. พระอธิการหัน
๑๒.พระอธิการจันทร์แดง
๑๓.พระอธิการพรมมา
๑๔.พระครูอนุรักษ์กันทรารมย์ (หลวงปู่เบ้า คมฺภีโร)
๑๕.พระอ่อน บุญเสนอ
๑๖.พระบัญชา
๑๗.พระล้ำ
๑๘.พระภิกษุเนียม โสคนฺธิโก ( กำนันเนียม บุญเสนอ)
๑๙.เจ้าอธิการบุญเติม ยโสธโร
๒๐.พระครูอนุรักษ์กันทรารมย์ (หลวงปู่เบ้า คมฺภีโร)
๒๑.พระครูอนุเขตมงคลการ (หลวงปู่คำพันธ์ เตชธมฺโม)
๒๒.พระครูอนุเขตสุนทร (หลวงพ่อประสิทธิ์ ติกฺขญาโณ)
วัดเก่าเริ่มเป็นวัดร้าง เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2451 สมัยพระอธิการมั่น เป็นเจ้าอาวาส สาเหตุที่วัดร้าง
นั้นมีเรื่องเล่าว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ นายจันดี ได้ปีนขึ้นต้นกระดังงาในวัด แล้วพลัดตกลงมาถึงแก่ความตายทันที อีกทั้งพระภิกษุ สามเณรในวัดทุกรูปได้เกิดอาพาธพร้อมกัน และเรื้อรังอยู่ประมาณปีเศษที่มรณภาพไปก็มี ที่อยู่ก็กระจัดกระจายไปจำพรษาที่วัดอื่น ๆ ส่วนพระที่อยู่วัดก็ได้มีการประชุมปรึกษาหารือกับทายกทายิกาว่าสมควรทำอย่างไรดี ที่ประชุมลงมติให้สร้างวัดใหม่ ชาวบ้านจึงพร้อมกันเลือกที่โนนหนองกระสุนกับหนองยางสิม เพราะเป็นทำเลที่เหมาะสม โดยยึดถือประเพณีว่า ต้องทำการเสี่ยงทายเสียก่อน แต่ปรากฏว่าเสี่ยงทายไม่ได้จึงย้ายมาเลือกที่ทิศตะวันตกของหนองแซว หนองบอน และหนองตาสวน ( หนองที่ติดกับกำแพงวัดด้านทิศตะวันออกปัจจุบัน ) ซึ่งเป็นบริเวณที่เสี่ยงทายได้ตามความประสงค์คือบริเวณที่ตั้งวัดในปัจจุบัน โดยมีพระอธิการมั่น เป็นผู้นำฝ่ายสงฆ์ ( ส่วน ส่วนเสมอ ) เป็นผู้นำชาวบ้านได้หาไม้มาสร้างกุฏิเมื่อ พ.ศ.2452 ตรงกับปีระกา จ.ศ. 1271 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2453
ครั้นต่อมาพระอธิการมั่น ร่วมกับพระเพ็ง พระหัน และพระภิกษุสามเณรในวัดร่วมกับชาวบ้านสร้างศาลาการเปรียญ ( หัวแจก ) ด้วยไม้เสากลม ( ต้นใหญ่ ) วัดโดยรอบได้ 14 กำมือ ( กำคือการนับวัดแบบโปราณ ) มีประตูบันไดขึ้นลงทั้งสองข้าง สร้างเสร็จ พ.ศ. 2455 ตรงกับปีชวด จ.ศ.1274 ปีแปดสองหน จนถึง พ.ศ. 2493 จึงมีการรื้อถอนปลูกสร้างใหม่ มีอายุได้ 39 ปี
เมื่อสร้างศาลาการเปรียญเสร็จแล้ว พระอธิการมั่นได้ลาสิกขาบท ต่อมาพระเพ็งได้เป็นเจ้าอาวาสแทนและได้ลาสิกขาบทเช่นกัน พระหัน พระอธิการจันทร์แดง เป็นเจ้าอาวาสจนถึงปี พ.ศ.2467 ปีชวด พระอธิการจันทร์แดงได้มรณภาพที่วัดเมืองน้อยด้วยโรคยาเบื่อ (ยาสั่ง ) จากอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ต่อมาพระอธิการพรมมาได้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้หนึ่งปี จึงย้ายไปอยู่ที่วัดหนองมุข
10. พระอุปัชฌาย์เบ้า คมฺภีโร (พระครูอนุรักษ์กันทรารมย์) เป็นเจ้าอาวาสวัดเมืองน้อยเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๙ โดยอุปสมบท เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๐ ที่วัดเมืองน้อยโดยพระอุปัชฌาย์เขียว ขนฺติโก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอุปัชฌาย์เบ้านี้ เป็นผู้ฝักใฝ่ในการศึกษาเป็นผู้ที่มีความขยันขันแข็งและมีฝีมือในทางการช่างท่านได้ใช้สติปัญญาความรอบรู้ความสามารถพัฒนาวัดวาอารามอย่างเต็มความสามารถ ท่านได้ริเริ่มวางแผนผังก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม เพื่อสร้างศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น ควบคู่กับการอบรมฝึกฝนธรรมปฏิบัติเพื่อพัฒนาจิตใจ ให้ตั้งอยู่ในศีลธรรมสัมมาอาชีพเพื่อให้อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข ผลงานที่ท่านได้พยายามสร้างสรรค์ตลอดมาอย่างสม่ำเสมอได้รับความร่วมมือความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้านเมืองน้อยตลอดมาและท้องที่ใกล้เคียงอย่างดียิ่ง ดังจะเห็นได้จากผลงานของท่านพอสังเขปดังนี้
๑. ด้านการศึกษา ศาสนา
-พ.ศ. ๒๔๒๒ เรียนคัมภีร์มูลกัจจายนะเดิม ที่วัดศรีธาตุ ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
-พ.ศ. ๒๔๖๔ เรียนคัมภีร์อภิธรรมปิฎก ณ สำนักเรียนวัดสว่าง ตำบลไผ่ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
-พ.ศ. ๒๔๖๕ สอบได้นักธรรมชั้นตรีในสนามหลวง
-พ.ศ. ๒๔๖๙ ย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดเมืองน้อย
-พ.ศ. ๒๔๗๕ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะหมวดตำบลเมืองน้อย ละทาย ทาม ๓ ตำบล
-พ.ศ. ๒๔๗๗ ได้เป็นอุปัชฌาย์ในแขวงกันทรารมย์
-พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้ดำรงตำแหน่งเป็นองค์การสาธารณูปการ อำเภอกันทรารมย์
-พ.ศ. ๒๔๙๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรประเภทสามัญในนาม
“พระครูอนุรักษ์กันทรารมย์”
๒. ผลงานด้านก่อสร้างบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะและถาวรวัตถุได้แก่
-พ.ศ. ๒๔๗๐ สร้างกุฎิ ๑ หลัง ด้วยไม้มุงกระดานเกร็ด เป็นกุฎิทรงไทยแฝด ๓ หลังชาวบ้านรุ่นก่อนเรียก
ชื่อว่า กุฎิทุ่ง เพราตั้งอยู่ทางริมทุ่งนาทางทิศใต้ของวัด
-พ.ศ. ๒๔๗๑ สร้างอุโบสถ ๑ หลัง โดยใช้อิฐเผาเอง ซึ่งเป็นโบสถ์ที่รื้อก่อนหลังที่สร้างปัจจุบัน รื้อเพื่อปลูก
สร้างก่อนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐
-พ.ศ. ๒๔๗๕ สร้างกุฎิ ๑หลัง ชาวบ้านเรียกว่า “กุฎิมุข” โดยสร้างทรงไทยมุงสังกะสี และสร้างแบบมีมุข ๒ หน้า
-พ.ศ. ๒๔๗๖ สร้างโรงเรียนปริยัติธรรม ๑ หลัง
-พ.ศ. ๒๔๗๘ ขุดสระน้ำเพื่อสาธารณะประโยชน์ที่หนองวัดและ หนองบอน
-พ.ศ. ๒๔๘๐ สร้างโรงเรียนประชาบาลเมืองน้อย (แบบป. ๑ ปัจจุบัน)
-พ.ศ. ๒๔๘๕ สร้างกำแพงวัดด้านทิศเหนือและทิศตะวันตก โดยเผาอิฐเองที่หนองยาง
-พ.ศ. ๒๔๙๖ สร้างศาลาการเปรียญ (หัวแจก) ๑ หลัง คือหลังที่กำลังรื้อถอน ใน ปีพ.ศ. ๒๕๓๖ เพื่อทำการสร้างใหม่จนแล้วเสร็จ ปี พ.ศ. ๒๕๓๘ พอในปี ๒๕๖๓ ได้ทำการเปลี่ยนหลังคาและทาสีใหม่
-พ.ศ. ๒๕๑๑ สร้างโบสถ์ ๑ หลัง โดยใช้เวลา ๑๑ เดือนและได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๑ จนแล้วเสร็จ ปี ๒๕๕๔
ในขณะที่พระครูอนุรักษ์กันทรารมย์เป็นเจ้าอาวาสวัดเมืองน้อย ท่านได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่หลายวัด ตามความเชื่อของบรรพบุรุษว่า หากสร้างเสนาสนะเสร็จแล้วต้องย้ายที่ชั่วคราว จึงต้องมีพระภิกษุในวัดรักษาการชั่วคราว ทั้งนี้เพราะท่านมีความคิดที่จะฝึกพระลูกวัดให้มีความรับผิดชอบ คือ ในขณะที่จำพรรษาที่วัดสระสิม บ้านผึ้ง ตำบลทาม ได้มอบให้พระอ่อน บุญเสนอ เป็นเจ้าอาวาสแทนชั่วคราวเป็นเวลา 3 พรรษา และในขณะที่จำพรรษาที่วัดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบให้พระบัญชา และพระล้ำเป็นเจ้าอาวาส ทั้งตำแหน่งเจ้าคณะตำบลล เมื่อพระภิกษุเนียม โสคนฺธิโก ( กำนันเนียม ) สอบได้นักธรรมชั้นเอก ท่านได้เสนอตำแหน่งเจ้าคณะตำบลแทนท่าน และเสนอตำแหน่งดังกล่าวให้แก่พระภิกษุคำหล้า คณธโม เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองมุข หลังจากที่พระภิกษุเนียมลาสิกขาบทแล้ว เจ้าอธิการบุญเติม ยโสธโร ได้รับมอบหมายเสนอชื่อได้รับตำแหน่งดังกล่าวต่อมา
หลังจากที่พระครูอนุรักษ์กันทรารมย์ และพระอธิการบุญเติม ยโสธโร มรณภาพ ชาวบ้านเมืองน้อยพร้อมใจกันอาราธนา เจ้าอธิการคำพันธ์ เตชธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหนองเทา มาเป็นเจ้าอาวาสวัดเมืองน้อย เมื่อ ปี พ.ศ. 25๒๔ และได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น”พระครูอนุเขตมงคลการ” เมื่อ พ.ศ.253๐ พระครูอนุเขตมงคลการได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลและพระอุปัชฌาย์จนถึงปี พ.ศ.๒๕๔๑ ท่านก็ได้มรณภาพลง
เจ้าอธิการคำพันธ์ เตชธมฺโม (พระครูอนุเขตมงคลการ) ท่านได้อุปสมบทที่วัดหนองเทา โดยมีพระอุปัชฌาย์เบ้า คมฺภีโร เป็นผู้พระอุปัชฌาย์ ให้ช่วงที่ดำงตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่นั้น ได้บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดเมืองน้อย ดังนี้
พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้ร่วมกับชาวบ้านได้รื้อถอนศาลาการเปรียญ
พ.ศ.๒๕๓๘ ได้ฉลองสมโภชศาลาการเปรียญหลังใหม่
พ.ศ.๒๕๓๙ สร้างเมรุ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ
หลังจากพระครูอนุเขตมงคลการได้มรณภาพลงชาวบ้านเมืองน้อยจึงได้ปรึกษาหารือกันว่าจะไปอาราธนาพระภิกษุรูปใดดีที่มีความรู้ความสามารถมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเมืองน้อยรูปต่อไป สุดท้ายจึงมีความเห็นพร้อมใจกันไปขออาราธนา พระประสิทธิ์ ติกฺขญาโณ รองเจ้าอาวาสวัดบ้านสว่าง ตำบลสว่าง กิ่งอำเภอสว่างวีรวงศ์ (ในขณะนั้น) จากวัดบูรพา (บ้านผึ้ง) ตำบลทาม ท่านได้มาจำพรรษากับพระครูสถิตธรรมวิมล (หลวงปู่คำดี ฐิตธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดบูรพา ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ และเคยมาช่วยเหลือจัดงานภายในวัดเมืองน้อยหลายงาน อาทิเช่น งานฉลองสมโภชน์ศาลาการเปรียญ เป็นต้น ซึ่งชาวบ้านเมืองน้อยได้ปรึกษากับพระครูสถิตธรรมวิมลเพื่อขออนุญาตท่าน และขออาราธนาท่านพระประสิทธิ์ ติกฺขญาโณ มาเป็นเจ้าอาวาส พระประสิทธิ์ ติกฺขญาโณ ได้รับขันธ์อาราธนาแล้วมาเป็นเจ้าอาวาสเมืองน้อย ในปี พ.ศ.๒๕๔๑
พระอธิการประสิทธิ์ ติกฺขญาโณ (พระครูอนุเขตสุนทร) ท่านได้อุปสมบทที่วัดเจริญศรี อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ ๒๑ เดือน มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๔ โดยมีพระครูวิมลคุณากร เจ้าคณะอำเภอบ้านม่วงเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านเป็นพระที่มีฝีมือในการก่อสร้างเสนาสนะ อ่านอักษรธรรมได้ ในช่วงที่ท่านมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเมืองน้อยได้บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดเมืองน้อย ดังนี้
พ.ศ.๒๕๔๑ - ๒๕๔๔ ได้มาสร้างเมรุต่อจากพระครูอนุเขตมงคลการ
พ.ศ.๒๕๔๖ - ๒๕๔๘ ได้สร้างศาลาบำเพ็ญ ขนาดความกว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๒๓ เมตร
พ.ศ.๒๕๔๘ ได้ขยายอาณาเขตวัดให้กว้างขึ้นกว่าเดิม
พ.ศ.๒๕๔๙ ได้รื้อถอนกุฏิหลังเก่าที่ทรุดโทรมและได้สร้างกุฏิหลังใหม่
พ.ศ.๒๕๕๒ - ๒๕๕๕ ได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถจนแล้วเสร็จ
พ.ศ.๒๕๕๗ ได้ทำการฉลองสมโภชน์อุโบสถ
พ.ศ.๒๕๖๓ ได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญและสร้างห้องน้ำ ขนาด ๒๔ ห้อง
ได้สร้างกุฎีสงฆ์ทรงไทยขึ้นอีก ๔ หลัง
แผนที่ Google Map
Google Map Link
กดดู
รายการพระ
พระครูอนุเขตสุนทร ติกฺขญาโณ
ตำแหน่ง : เจ้าอาวาส
ข้อมูลเมื่อ : 25-06-2565
ปรับปรุงล่าสุด : 27-06-2565