ปูชนียวัตถุสถาน
พิพิธภัณฑ์เรือโบราณ
รายละเอียด
นายบุญส่ง เนินทราย ชาวบ้านเชียงเพ็ง ซึ่งเป็นผู้ดูแลเครื่องสูบน้ำได้พบซากเรือโดยบังเอิญ เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ บริเวณริมตลิ่งของลำน้ำเซบาย ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล ลักษณะที่พบคือด้านข้างของเรือโผล่พ้นขึ้นมาบนพื้นทรายริมตลิ่ง โดยมีส่วนหนึ่งทอดตัวลงไปในน้ำ และอีกด้านหนึ่งหายเข้าไปในผนังดินริมตลิ่ง วางตัวในลักษณะขวางกับแนวลำน้ำ วัดขนาดส่วนที่มองเห็นได้ ๑๕ เมตร
วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ นายพรเทพ รูปหล่อ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑ ตำบลเชียงเพ็ง ได้แจ้งไปยังสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร ได้แจ้งไปยังกลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๑ อุบลราชธานี ว่ามีการพบซากเรือบริเวณริมฝั่งลำเซบายบ้านเชียงเพ็ง หมู่ที่ ๗ อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร และได้มีการสำรวจเบื้องต้นในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๘
วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๘ นายพรเทพ รูปหล่อ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑ และนายคำพูล กอมะณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๗ พร้อมด้วยลูกบ้านลงความเห็นร่วมกันประสงค์จะนำเรือขึ้นมาเพื่อเก็บรักษาไว้ที่วัดเชียงเพ็ง จึงทำการขุดตรวจสอบด้วยแรงงานชาวบ้านประมาณ ๓๐ คน โดยมีนักโบราณคดีควบคุมอย่างใกล้ชิด ปรากฏว่าไม่สามารถขุดซากเรือขึ้นมาได้ เนื่องจากเรือมีขนาดใหญ่ มีส่วนที่จมหายไปในตลิ่งและบางส่วนจมอยู่ในลำน้ำ โดยไม่สามารถหาขอบเขตและขนาดของเรือได้ จึงยุติการขุดไว้ชั่วคราว
วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๘ ได้นำรถแบ็คโฮ จำนวน ๒ คัน เข้าทำการขุด พร้อมด้วยแรงชาวบ้านนับร้อยคน และชาวบ้านที่มาให้กำลังใจนับหมื่นคน ตลอดระยะเวลาในการขุด จนถึงวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ จึงสามารถเห็นขนาดของเรือทั้งลำ และลากขึ้นมาให้พ้นจากลำน้ำได้
วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๘ เป็นวันที่สามารถลากเรือขึ้นมาไว้ที่บริเวณตลิ่งด้านบนได้สำเร็จ พอรอการเคลื่อนย้ายเข้ามาเก็บไว้ที่วัดเชียงเพ็ง
วันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ ได้ทำการเคลื่อนย้ายเรือโบราณ แต่ก่อนเคลื่อนย้าย ผู้นำหมู่บ้านทั้งสองหมู่พร้อมทั้งชาวบ้านได้นิมนต์พระสงฆ์ประกอบพิธีทำบุญตามความเชื่อของชาวพุทธเพื่ออุทิศส่วนบุญให้แก่บรรพบุรุษหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และทำการเคลื่อนย้ายโดยนำขึ้นรถกึ่งพ่วงบรรทุกน้ำหนัก (รถเทลเลอร์) และรถแบ๊กโฮ ๒ คัน มาเก็บรักษาไว้ที่วัดเชียงเพ็ง จนปัจจุบัน
ข้อมูลทั่วไป
เรือโบราณมีขนาดยาว ๒๗.๕๐ เมตร กว้าง ๓.๕๐ เมตร สูง ๑.๕๐ เมตร และมีกระดูกงูจำนวน ๖๘ ข้อ จัดอยู่ในประเภทเรือกระแซง หรือเรือหมากกระแซง คล้ายกับเรือเอี้ยมจุ๊นในภาคกลาง แต่มีขนาดยาวกว่าเรือเอี้ยมจุ๊นสามเท่า รูปร่างของเรือเรียวแคบบริเวณหัวท้าย และกว้างออกบริเวณกลางลำ บริเวณท้ายเรือมีการปูกระดานกว้างประมาณ ๒ เมตร เทคนิคการต่อเรือเป็นแบบข้างกระดานมักพบในอีสาน โดยจะวางกระดูกงูจากนั้นจะเอาไม้กระดานมาต่อเป็นตัวยึดเรือด้วยตะปูไม้และตะปูเหล็ก ระหว่างรอยต่อของกระดานจะอุดด้วยฝ้ายหรือด้าย หรือเชือกชุบน้ำมันยางเพื่อไม่ให้น้ำเข้าและเอาชันยาเรือทับอีกชั้นหนึ่ง ความสมบูรณ์ของเรือที่พบประมาณ ๘๐ % และยังมีสภาพแข็งแรง
สรุปความคาดการณ์ จากหลักฐานเรือโบราณที่พบมีลักษณะเป็นเรือสินค้าบรรทุกข้าวเมื่อประมาณ ๑๐๐ – ๒๐๐ ปีที่ผ่านมา โดยเทียบเคียงกับประวัติการตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๐ และจากการบอกเล่าของคนแก่เฒ่าที่มีอายุ ๘๐ - ๙๐ ปี ขึ้นไป ว่าในลำเซบายในอดีตเคยมีเรือขนข้าวของ “เจ๊กซิว” ชาวจีนที่เป็นพ่อค้าขายข้าวในสมัยนั้น แต่จากการบอกเล่าของคนสมัยโบราณ บอกว่าเรือของเจ๊กซิวที่ขายข้าวไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าลำนี้ ซึ่งลำนี้ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงพอคาดการได้ว่าเรือลำนี้อาจจะล่มก่อนคนยุคอายุ ๙๐ ปีมาแล้ว และไม่มีใครเล่าต่อกันมาจึงไม่สามารถสืบประวัติที่แท้จริงได้
โดย : วัดเชียงเพ็ง
ที่อยู่ : ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร
จำนวนเข้าดู : 24
ปรับปรุงล่าสุด : 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 18:45:10
ข้อมูลเมื่อ : 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 18:45:10